บทที่ 7
เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Objectives)
หลังจากศึกษาจบบทเรียนนี้แล้ว นักศึกษาจะมีความสามารถดังนี้
(After studying this chapter, you will be able to)
- อธิบายแผนภูมิ Block Diagram
- เขียนแผนภูมิการจัดองค์กร
- ยกตัวอย่างแผนภาพการแจกจ่ายงาน
- ออกแบบแผนภูมิ / ตารางกำหนดเวลาการปฏิบัติงาน (Gantt’s Chart)
- ออกแบบปฏิทินการปฏิบัติงาน (Time Schedule and Time Table)
- ออกแบบตารางเสนอผลการประมวลผล (Input / Output Table)
- ยกตัวอย่างวิธีการวิเคราะห์ข่ายงาน
- บอกข้อดีของ PERT
- จัดบอร์ดเชิงปฏิบัติการ “เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ”
- สนทนาเชิงปฏิบัติการ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค (SWOT Analysis) “แผนภูมิ Gantt’s Chart”
- สนทนาเชิงปฏิบัติการ SWOT Analysis “แผนภาพการแจกจ่ายงาน (Work Distribution Chart)”
- สนนาเชิงปฏิบัติการ SWOT Analysis “แผนภาพ PERT”
- อธิบายคำศัพท์ได้ 12 คำ
บทที่ 7
เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
การออกแบบระบบมักจะใช้รูปภาพและสัญลักษณ์ เครื่องมือที่ใช้มีอยู่มากมายหลายชนิดแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ใช้ในโอกาสแตกต่างกัน เครื่องมือแต่ละอย่างมีวิธีการสร้างคุณสมบัติ และการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับนักวิเคราะห์ระบบว่าจะนำไปใช้ในขั้นตอนใดซึ่งจะต้องศึกษาคุณสมบัติของเครื่องมือนั้นให้เข้าใจเพื่อที่จะได้นำ ไปใช้อย่างถูกขั้นตอนและถูกต้องตามวิธีใช้งานของเครื่องมือแต่ละชนิด
แผนภูมิ Block Diagram
เป็นแผนภูมที่มีลักษณะของการใช้ Block สี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นตัวแทนของกิจกรรม (Activity) ต่าง ๆ หรือใช้แทนความคิดที่ต้องการจะทำการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานซึ่งสามารถนำไปใช้ในการเขียนเป็นแผนภูมิของกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลายอย่าง เช่น
1.การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิการจัดองค์กร (Organization Chart) ซึ่งเป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าองค์กรนั้น ๆ มีการจัดแบ่งเป็นองค์ประกอบย่อย ๆ อะไรบ้างและแบ่งอย่างไร เช่น แบ่งออกเป็นฝ่ายแบ่งเป็นแผนก เป็นหน่วย มีงานอะไรบ้าง กี่หน่วยงานและหน่วยงานต่าง ๆ เหล่านั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางสายการบังคับบัญชากันอย่างไรเป็นต้น
2. การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิการทำงานของระบบงาน (SystemFlowchart) เป็นแผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ในการทำงานของระบบใด ๆ ว่าในระบบนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
3.การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิเพื่อแสดงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม (Program Flowchart) เป็นแผนภูมิแสดงการทำงานของโปรแกรมแบบเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นโปรแกรม ดำเนินไปตามขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม ไปจนสิ้นสุดการทำงาน ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น Routine การทำงานใหญ่ ๆ
4.การใช้ Block Diagram ในการเขียนแผนภูมิแสดงการไหลของข้อมูล (Data FlowDiagram : DFD) เป็นแผนภูมิที่ใช้สำหรับการแสดงการไหลไปของข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการปฏิบัติงานไปตามลำดับขั้นตอนกันอย่างไรบ้าง
แผนภูมิการจัดองค์กร (Organization Chart)
เป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าองค์กรนั้น ๆ มีโครงสร้างหรือการจัดแบ่งเป็นองค์ประกอบย่อย ๆ อะไรบ้างและแบ่งอย่างไร เช่น แบ่งออกเป็นฝ่าย เป็นหน่วยงานอะไรบ้าง กี่หน่วยงาน และหน่วยงานเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในสายการบังคับบัญชากันอย่างไร รวมทั้งแสดงถึงความสัมพันธ์ของแต่ละตำแหน่ง ซึ่งนักวิเคราะห์ระบบสามารถใช้แผนภาพองค์กรนี้ในการสัมภาษณ์ และสอบถามข้อมูลจากบุคคลต่าง ๆ ในองค์กรได้ เนื่องจากแผนภาพนี้แสดงถึงโครงสร้างขององค์การอย่างเป็นทางการ แต่ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของแต่ละตำแหน่งในทางปฏิบัติงานจริงอาจมีความแตกต่างกันบ้าง นักวิเคราะห์ระบบจึงต้องศึกษาและสอบถามจากบุคคลต่าง ๆ ในองค์กร
ภาพที่ 7.1 แสดงแผนภูมิการจัดองค์กร (Organization Chart)
แผนภาพการแจกจ่ายงาน (Work Distribution Chart)
เป็นแผนภาพแสดงการแจกจ่ายงาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงงานต่าง ๆ ที่ต้องกระทำว่ามีอะไรบ้าง ใครเป็นผู้ทำ และใช้เวลาเท่าใด รวมทั้งยังช่วยผู้บริหารโครงการแจกจ่ายงานให้แต่ละบุคคลได้อย่างทั่วถึงและสมดุล
งาน/บุคคล |
สมศิริ |
ปิยะฉัตร |
นงลักษณ์ |
พรทิพย์ |
การสั่งซื้อสินค้า |
|
ตรวจสอบตาคา |
พิมพ์ใบสั่งซื้อ (5) |
|
การตรวจสอบ |
ตรวจสอบและ |
ตรวจทานใบสั่งซื้อ(2) |
|
|
การรับสินค้า |
|
|
|
ตรวจสอบสินค้าที่รับกับรายการที่สั่ง (15) |
อื่น ๆ |
จัดการประชุม(10) |
ดูรายละเอียดปลีกย่อย (15) |
จัดเก็บเอกสารการ |
จัดเก็บเอกสารการ |
ภาพที่ 7.2 แสดงแผนภาพการแจกจ่ายงาน
แผนภูมิ Gantt chart (Gantt’s Chart)
เป็นแผนภูมิแท่งชนิด Bar Chart อย่างหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะต้องกระทำกับระยะเวลาหรือเวลาสำหรับการปฏิบัติงานของกิจกรรมนั้น ๆ การเขียน Gantt chart จะต้องกำหนดเวลาของแต่ละโครงงาน ซึ่งจะแสดงภาพรวมของโครงการนั้น ๆ ทำให้เข้าใจภาพรวมของระบบได้ง่ายขึ้น บุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถทำการตรวจสอบความก้าวหน้าในการวิเคราะห์ระบบได้ อย่างเข้าใจและรวดเร็วมากขึ้น
Gantt chart ที่สร้างในส่วนบนตามแนวนอนของตารางจะแสดงหน่วยของเวลา ไม่ว่าจะเป็นชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือหน่วยเวลาตามที่นักวิเคราะห์ระบบกำหนด ส่วนด้านข้างตามแนวตั้งของตาราง บรรทัดบนสุดจะเป็นชื่อโครงการ บรรทัดถัดมาจะเป็นรายละเอียดของโครงการต่าง ๆ หรือขั้นตอนของโครงการซึ่งมักตั้งชื่อง่าย ๆ ที่สามาถเข้าใจได้ว่าโครงการนั้นทำอะไร
ภาพที่ 7.3 แสดงแผนภูมิ Gantt chart
ปฏิทินการปฏิบัติงาน (Time Schedule and Time Table)
เป็นปฏิทินในรูปลักษณะของตาราง ซึ่งแสดงถึงงานที่ต้องทำ วันที่ที่เริ่มทำงานและ วันที่ที่ทำงานแล้วเสร็จ
กิจกรรมที่ต้องปฏิบัติ |
เริ่มทำงานวันที่ |
สิ้นสุดการทำงานวันที่ |
การวิเคราะห์ระบบงานทะเบียน |
1 ม.ค. 2548 |
15 ม.ค. 2548 |
การออกแบบระบบ |
10 ม.ค. 2548 |
10 ก.พ. 2548 |
การพัฒนาระบบงานทะเบียน |
15 ก.พ. 2548 |
31 ม.ค. 2548 |
การทดสอบปรับปรุงแก้ไขระบบ |
15 ม.ค. 2548 |
15 เม.ย. 2548 |
การบำรุงรักษาระบบ |
15 ม.ค. 2548 |
-------- |
ภาพที่ 7.4 แสดงทินการปฏิบัติงาน
ตาราง Input/Output Table
เป็นตารางที่ใช้สำหรับการสร้างหรือออกแบบตาราง Output หรือตารางเสนอผลการประมวลผลต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วนสำคัญ ๆ 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นรายการ Input ประกอบด้วย รายการต่าง ๆ ทั้งหมดที่จะนำมาประมวลผลส่วนนี้จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตารางสำหรับใช้ในการเลือกเป็นรายการของตารางปกติตารางหนึ่ง ๆ จะมีรายการที่มีความสัมพันธ์ประมาณ 2-5 รายการ แต่ถ้ารายการมีมากเกินไปจะต้องทำเป็นตารางเชิงซ้อนซึ่งอาจมีความซับซ้อนยุ่งยากเกินไป จึงนิยมแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนย่อย เสียก่อน แล้วจึงนำมาเข้าเป็นตารางต่อไป
2. ส่วนของเลขตาราง ซึ่งในส่วนนี้จะมีจำนวนตารางเท่าใดก็ได้
ประโยชน์ของตาราง Input/Output Table
- ทำให้ทราบจำนวนตารางที่ได้ทำการออกแบบทั้งหมด
- ทำให้ทราบความสัมพันธ์ของรายการต่าง ๆ ของแต่ละตาราง ซึ่งจะเป็นการง่ายในการออกแบบตารางต่อไป
- เป็นการง่ายที่จะตรวจสอบว่า มีรายการใดบ้างที่ยังไม่ได้รับการออกแบบตารางจะได้ทำการออกแบบตารางของรายการนั้น ๆ ต่อไป
- เป็นการง่ายที่จะตรวจสอบว่าตารางใดบ้างที่มีรายการซ้ำกัน ที่ควรจะทำการตัดออก
รายการ |
T1 |
T2 |
T3 |
T4 |
T5 |
T6 |
T7 |
T8 |
T9 |
1. IDNO |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2. เพศ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
|
|
3. วันเดือนปีเกิด |
|
/ |
|
|
|
|
|
|
|
4. วันเดือนปีที่เข้าทำงาน |
|
|
/ |
// |
|
|
/ |
|
/ |
5. ตำแหน่ง |
|
|
|
|
/ |
// |
|
/ |
/ |
6. แผนก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
7. เงินเดือน |
|
|
|
/ |
|
/ |
/ |
/ |
/ |
8. การศึกษา |
/ |
/ |
|
|
|
|
|
/ |
|
9. สภาพการสมรส |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ภาพที่ 7.5 แสดงตาราง Input/Output Table
การวิเคราะห์ข่ายงาน (Network Analysis)
แผนภาพเครือข่าย (Network) คือ แผนภาพที่ใช้แสดงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะต้องทำเพื่อให้โครงการสำเร็จลงอย่างมีระบบ ส่วนประกอบของเครือข่ายจะประกอบด้วย Node ซึ่งให้แสดงเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยที่แต่ละ Node จะเชื่อมโยงด้วยเส้นตรงแสดงถึงความสัมพันธ์ของกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเวลาที่จะต้องใช้ในการทำกิจกรรมนั้น ๆ การเขียนตารางเวลาการทำงานโดยใช้เครือข่ายมีอยู่ 2 วิธีที่นิยมใช้กันอยู่ คือ
1. PERT : Program Evaluation and Review Technique
2. CPM : Critical Path Method
1. PERT : Program Evaluation and Review Technique
เป็นแผนภาพที่ใช้สำหรับจัดตารางของงานในการพัฒนาระบบ ซึ่งแสดงถึงลำดับการทำงานกับเวลา รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้ผู้วางแผน พิจารณาว่างานใดที่มีผลกระทบทำให้งานอื่น ๆ ล่าช้ากว่ากำหนด แผนภาพนี้มีความละเอียดในการแสดงรายละเอียดของงานได้มากกว่า Gantt Chart ที่แสดงเพียงลำดับของงานกับเวลา
PERT เป็นเครื่องมือสำหรับการวางแผนและควบคุมให้งานต่าง ๆ สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด และยังแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำให้โครงการที่วางไว้สำเร็จลุล่วง
ภาพที่ 7.6 แสดงแผนภาพ PERT : Program Evaluation and Review Technique
ข้อดีของ PERT
- ใช้พิจารณาจัดลำดับงานต่าง ๆ โดยเฉพาะงานที่ต้องทำเป็นอิสระจากกัน
- ใช้ประมาณเวลาที่ใช้ในแต่ละกิจกรรม รวมทั้งเวลาที่ใช้ทั้งโครงการ
- สามารถชี้ให้เห็นงานที่มีผลกระทบต่องานอื่น ๆ ทั้งโครงการ ถ้างานนั้นสำเร็จล่าช้ากว่ากำหนด
- ใช้ประมาณค่าเฉลี่ยของเวลาที่ใช้สำหรับการทำตารางใหม่ เพื่อให้โครงการสำเร็จ
- ใช้คำนวณเวลาที่ต้องใช้มากที่สุดสำหรับโครงการ
2. CPM : Critical Path Method
เป็นเครื่องมือทางด้านการจัดการเพื่อใช้ในการกำหนด การรวม และวิเคระห์กิจกรรม
ต่าง ๆ ที่จะต้องทำในโครงการอย่างประหยัดที่สุดและให้เสร็จทันเวลา โดยเริ่มจากการแยกกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการออกเป็นกิจกรรมย่อย ๆ ซึ่งกิจกรรมแต่ละกิจกรรมจะต้องใช้เวลาในการทำงานเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ฉะนั้นจึงจะมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแต่ละกิจกรรม ใช้ลูกศรเชื่อมระหว่างกิจกรรมและมีลำดับหรือคำอธิบายกิจกรรมและตัวเลขกำกับไว้ที่ลูกศรแต่ละอันซึ่งตัวเลขที่กำกับนี้จะเป็นเวลาที่ใช้ทำงานจากกิจกรรมหนึ่งไปยังอีกกิจกรรมหนึ่ง
Critical Path คือ การคำนวณระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นกิจกรรมแรกไปจนเสร็จสิ้นกิจกรรมสุดท้าย หากมีกิจกรรมที่ทำพร้อมกัน (เส้นขนานกัน) ให้ใช้เวลาที่นานที่สุดมาทำการคำนวณ
ภาพที่ 7.7 แสดงกำหนดเวลา CPM : Critical Path Method
Critical Path คือ 1-2-3-4-5-6-7 ใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน
คำศัพท์ บทที่ 7
เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
Block Diagram |
แผนภูมิ |
Organization Chart |
แผนภูมิการจัดองค์กร |
System Flowchart |
แผนภูมิการทำงานของระบบงาน |
Program Flowchart |
แผนภูมิเพื่อแสดงขั้นตอนการทำงานของ-โปรแกรม |
Data Flow Diagram:DFD |
แผนภูมิแสดงการไหลของข้อมูล |
Work Distribution Chart |
แผนภาพการแจกจ่ายงาน |
Time Schedule and Time Table |
ปฏิทินการปฏิบัติงาน |
Network Analysis |
การวิเคราะห์ข่ายงาน |
Critical Path |
การคำนวณระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นกิจกรรมแรกไปจนเสร็จสิ้นกิจกรรม |